วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

สามเหลี่ยมทองคำ

สามเหลี่ยมทองคำ (อังกฤษ: Golden Triangle) หมายถึงพื้นที่รอยต่อระหว่างสามประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย(จังหวัดเชียงราย) ลาว (แขวงบ่อแก้ว) และพม่า (แขวงท่าขี้เหล็ก, รัฐฉาน) มีลักษณะเป็นพื้นที่สามเหลี่ยมบรรจบกัน โดยมีแม่น้ำโขงตัดผ่านชายแดนไทยและลาว นับเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญแห่งหนึ่งของภูมิภาค นอกจากนี้สามเหลี่ยมทองคำยังมีทิวทัศน์ที่งดงามโดยเฉพาะยามเช้า ที่ดวงอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางสายหมอก เดิมสามเหลี่ยมทองคำเป็นที่รู้จัก ในฐานะเป็นแหล่งท่องเที่ยวรอยต่อระหว่างประเทศ แต่ในปัจจุบันมีความสำคัญในทางเศรษฐกิจมากขึ้น เนื่องจากเป็นแหล่งขนถ่ายสินค้าที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของไทย
สามเหลี่ยมทองคำในส่วนของประเทศไทย อยู่ในเขตบ้านสบรวก อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย มีท่าเรือขนาดเล็กขนส่งสินค้าไปยังประเทศจีน และลาว เมื่อมองจากฝั่งไทยไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ จะเห็นหมู่บ้านในฝั่งลาวอย่างชัดเจน ส่วนทางพม่าซึ่งอยู่ด้านตะวันตกนั้น ไม่มีหมู่บ้านหรือสิ่งก่อสร้างให้เห็นในระยะใกล้ๆ
บริเวณดังกล่าวยังเป็นที่บรรจบกันของแม่น้ำโขงและแม่น้ำรวก ที่เรียกว่า สบรวก บริเวณนี้มีเคยมีชนกลุ่มน้อยและกองกำลังติดอาวุธอยู่หลายกลุ่ม พื้นที่ในแถบนี้เคยเป็นแหล่งปลูกฝิ่นและผลิตยาเสพติดแหล่งใหญ่ เช่น มีโรงงานผลิตเฮโรอีนและกระจายอยู่ตามชายแดน ส่วนการลำเลียงฝิ่นจะไปเป็นขบวนลัดเลาะไปตามไหล่เขาพร้อมกำลังคุ้มกัน ว่ากันว่ายาเสพติดและฝิ่นจะถูกแลกเปลี่ยนด้วยทองคำในน้ำหนักที่เท่ากัน จึงเป็นที่มาของชื่อ สามเหลี่ยมทองคำ
นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปยังสามเหลี่ยมทองคำในช่วงฤดูหนาว และไปถ่ายรูปกับป้าย "สามเหลี่ยมทองคำ" ที่ติดตั้งไว้ริมฝั่งแม่น้ำโขงด้วย นอกจากนี้ยังนิยมนั่งเรือเที่ยวชมทิวทัศน์จุดบรรจบของพรมแดนไทย ลาว และพม่า ค่าเช่าเรือประมาณ 300-400 บาท (นั่งได้ 6 คน) นอกจากนี้ยังสามารถล่องแม่น้ำโขงไปเที่ยวทางตอนใต้ของประเทศจีน เช่น สิบสองปันนา คุนหมิง ได้อีกด้วย แต่หากต้องการจะชมทิวทัศน์มุมกว้าง ของสามเหลี่ยมทองคำบริเวณสบรวกและเพื่อนบ้าน ต้องขึ้นไปบนดอยเชียงเมี่ยง ที่อยู่ริมแม่น้ำโขง

แผนที่แสดงท้องที่ที่มีการผลิตเฮโรอีนมากที่สุดในโลกสี่ท้องที่ ได้แก่ สามเหลี่ยมทองคำ จันทร์เสี้ยวทองคำ ประเทศเม็กซิโก และประเทศโคลอมเบีย
        
     สามเหลี่ยมทองคำ ตั้งอยู่ห่างจากเชียงแสนไปทางทิศเหนือ 9 กิโลเมตร ตามถนนเลียบริมแม่น้ำโขง สบรวกเป็นบริเวณที่แม่น้ำโขงซึ่งกั้นดินแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศลาว มาพบกับแม่น้ำรวก ซึ่งกั้นดินแดนระหว่าง ประเทศไทยและประเทศพม่า จากจุดนี้นักท่องเที่ยวจะมองเห็นฝั่งพม่าและลาวได้ถนัดชัดเจน สามเหลี่ยมทองคำ เป็นที่ กล่าวขวัญกันในหมู่นักท่องเที่ยว เพราะครั้งหนึ่งเคยเป็นไร่ฝิ่นที่ใหญ่โตมาก เรียกว่าใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ แต่ปัจจุบัน ไม่มีไร่ฝิ่นที่ว่านี้อีกแล้ว คงเหลือแต่ทิวทัศน์ที่เงียบสงบของลำน้ำและเขตแดนของ 3 ประเทศเท่านั้น เป็นจุดที่แม่น้ำรวก ซึ่งกั้นพรมแดนไทยและพม่า มาบรรจบกันแม่น้ำโขงที่กั้นไทยกับลาว จุดนี้นักท่องเที่ยวจะ เห็นฝั่งพม่าและลาวได้ถนัด ชัดเจน สามเหลี่ยมทองคำเป็นที่กล่าวขวัญกันในหมู่นักท่องเที่ยว เพราะครั้งหนึ่งเคย เป็นไร่ฝิ่นที่ใหญ่โตมากเรียกว่า ใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ แต่ปัจจุบันไม่มีไร่ฝิ่นที่ว่านี้อยู่แล้ว คงเหลือแต่ทิวทัศน์ที่ เงียบสงบของลำน้ำและเขตแดนของ 3 ประเทศเท่านั้น แต่ผู้คนก็ยังคงพากันเดินทางมาสัมผัสกับตำนาน สามเหลี่ยมทองคำโดยมีที่มาขอชื่อ ว่าหลังจากที่พม่าี่ตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ และลาวถูกฝรั่งเศสยึดครอง ก็เกิดการค้าขายสินค้าด้วยระบบและเปลี่ยนกันขึ้นโดย ทางฝั่งพม่านั้นจะมีผ้าแพร สินค้าจากจีน กระทะทองเหลือ และฝิ่นเป็นสินค้าที่นำมาแลกเปลี่ยนกับผ้าไหม ทองคำแผ่น และทองคำแท่งของพ่อค้าฝั่งลาว ซึ่งพ่อค้าลาวจำเป็น ต้องล่องเรือตามลำน้ำโขงมาขึ้นที่บ้านป่าสัก เขตเมืองพงของ พม่าซึ่งตั้งอยู่เหนือบ้านสบรวกของไทย ปีหนึ่ง ๆ มีการแลกเปลี่ยนสินค้ากันประมาณ 4-5 ครั้ง ทำให้บ้านป่าสักกลาย เป็นบริเวณขายที่เฟื่องฟูมากของสมัยนั้น และเพราะการและเปลี่ยนด้วยทองคำนี้เองจึงทำให้ชาวบ้านเรียกขานบริเวณนี้ กันจนติดปากว่า "สามเหลี่ยมทองคำ"


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น