วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

พิพิธภัณฑ์บ้านดำ

    บ้านดำเป็นบ้านที่ศิลปิน อ.ถวัลย์ ดัชนี สร้างขึ้นมา มากกว่า40ปี ซึ่งแบ่งออกเป็น 3เจนเนอเรชั่น คือเป็นเจเนอเรชั่นไม้ ไม้ผสมปูน แล้วก็ เป็นบ้านคอนกรีต คอนเซปท์ทั้งหมดก็ป็นงานสถาปัตยกรรมที่ศิลปินออกแบบ สร้างสรรค์ด้วยตัวเอง ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก ล้านช้าง ล้านนา และสุวรรณภูมิทั้งหมด บ้านแต่ล่ะหลังก็จะมีคอนเซปท์ และความน่าสนใจที่ต่างกันออกไป สิ่งที่สะสมและจัดแสดงภายในบ้านก็จะมีคอนเซปท์แนวคิดตามนั้น อย่างเช่นบ้านลาว ได้แรงบันดาลใจจาก สุวรรณภูมิ ข้างในก็จะเป็นพวกเครื่องเงิน ซึ่งทางพิพิธภัณฑ์เองตั้งใจที่จะไม่ติดตั้งป้ายชื่อในตอนนี้ เพราะยังอยากให้เป็น Private Museum เพราะทุกวันนี้ศิลปินก็ยังอาศัยอยู่ในนี้ เป็นบ้านส่วนตัว 
ที่นี่ถือว่าเป็นการแสดงออก ซึ่งเราจะได้เห็นตัวตนของศิลปิน คือ อ.ถวัลย์ ดัชนี ได้อย่างชัดเจนผ่านทางงานศิลปะและสถาปัตยกรรม ของสะสมทั้งหมด ซึ่งผลงานของท่าน มีทั้ง จิตกรรม ปติมากรรม สถาปัตยกรรม ของสะสมทั้งหมดก็สะสมนำมาจากทั่วโลก แล้วก็นำมาสร้างสรรค์เป็นผลงาน เช่นพวกเก้าอี้ที่คุณจะไม่ได้เห็นที่ไหน 

      พิพิธภัณฑ์บ้านดำ (อ.ถวัลย์ ดัชนี) ภาพ 56พิพิธภัณฑ์บ้านดำ (อ.ถวัลย์ ดัชนี) ภาพ 58พิพิธภัณฑ์บ้านดำ (อ.ถวัลย์ ดัชนี) ภาพ 59
      พิพิธภัณฑ์บ้านดำ (อ.ถวัลย์ ดัชนี) ภาพ 46พิพิธภัณฑ์บ้านดำ (อ.ถวัลย์ ดัชนี) ภาพ 47พิพิธภัณฑ์บ้านดำ (อ.ถวัลย์ ดัชนี) ภาพ 55
      พิพิธภัณฑ์บ้านดำ (อ.ถวัลย์ ดัชนี) ภาพ 27พิพิธภัณฑ์บ้านดำ (อ.ถวัลย์ ดัชนี) ภาพ 25พิพิธภัณฑ์บ้านดำ (อ.ถวัลย์ ดัชนี) ภาพ 58
ของสะสมทั้งหมดก็สะสมมาตลอดอายุของ อ.ถวัลย์ ดัชนี บ้านทุกหลังที่เราเห็นในนี้ก็เป็นเหมือนบ้านส่วนตัวของศิลปิน คำแนะนำสำหรับการมาเที่ยวชม บ้านดำ ตัวศิลปินเอง อยากที่จะให้ ทุกคนที่เข้ามาชม รู้สึกมากกว่าเข้าใจ เพราะความเข้าใจแสวงหาได้จากหลายทาง แต่ความรู้ต้องมาสัมผัสเองเห็นเอง ก่อนมาที่นี่อาจจะดูข้อมูลที่เว็บไซต์ก่อนเพื่อหาความรู้ มีสถาปัตยกรรมทั้งสิ้น มากกว่า40หลัง 
 
"บ้านดำ แกลเลอรี่" เป็นสถานที่แสดงผลงาน อ.ถวัลย์ ดัชนี  ชื่นชอบผลงานของศิลปิน และเป็นมุมพักผ่่อน สำหรับแขกผู้มาเยื่ยมชมพิพิธภัณฑ์บ้านดำได้พักดื่มกาแฟ



พิพิธภัณฑ์บ้านดำ (อ.ถวัลย์ ดัชนี) ภาพ 05พิพิธภัณฑ์บ้านดำ (อ.ถวัลย์ ดัชนี) ภาพ 02พิพิธภัณฑ์บ้านดำ (อ.ถวัลย์ ดัชนี) ภาพ 04

วิหารเล็ก
เป็นอาคารชั้นเดียวยกพื้นสูงจากพื้นดินประมาณ 1.00 เมตร โครงสร้างอาคารเป็นโครงสร้างไม้ทั้งหมด  อยู่บนฐานปูนปั้น มีเสาไม้รองรับโครงสร้างของอาคารทั้งหมด 6 ต้น หลังคาทรงสามเหลี่ยมลดระดับสี่ชั้น  มุงด้วยกระเบื้องดินเผาไม่เคลือบสี ด้านบนประดับด้วยฉัตรบราลี     ป้านบม ด้านล่างประดับด้วย  หางหงส์และค้ำยัน  มีประตูเข้าออกสองด้าน ตรงกัน มีหน้าต่างด้านละสองบาน ใช้เวลาในการก่อสร้าง1ปี 


มหาวิหาร (อาหารพิพิธภัณฑ์ศิลปะ)
ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียวขนาดใหญ่ยกพื้นสูงจากพื้นดินประมาณ 2.80 เมตรบนฐานก่ออิฐถือปูน โครงสร้างอาคาร  เป็นโครงสร้างไม้ทั้งหมด มีเสาไม้รองรับโครงสร้างของอาคาร และฐานของเสาแต่ละต้น มีฐานบัวปูนปั้นทุกต้น หลังคา  ทรงสามเหลี่ยม ลดระดับสี่ชั้นมุงด้วยกระเบื้องดินเผาไม่เคลือบสี ปรับดับด้วยฉัตร และบราลี ด้านล่างประดับด้วยหางหงส์  และค้ำยัน มีประตูขนาดใหญ่ข้างละสามบาน ด้านข้างเป็นบานเลื่อน  ชื่อของมหาวิหารให้ความหมาย ดุจเดียวกันกับมหาวิหาร ซีสทีนชาเปล ที่เขียนคำพิพากษาของไมเคิล แองเจโล ในนครวาติกัน ใช้เวลาสร้าง7ปี  สร้างขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์ ในการจัดงานแสดงถาวร ทัศนศิลป์ทุกสาขา ของถวัลย์ ดัชนี งานแสดงหมุนเวียนของศิลปิน ทั้งในและนอกประเทศ     ประชุมสัมมนาทางศิลปะสุนทรียศาสตร์ ปรัชญา ตลอดจนกิจกรรมทางศิลปะ



พิพิธภัณฑ์บ้านดำ (อ.ถวัลย์ ดัชนี) ภาพ 17พิพิธภัณฑ์บ้านดำ (อ.ถวัลย์ ดัชนี) ภาพ 15พิพิธภัณฑ์บ้านดำ (อ.ถวัลย์ ดัชนี) ภาพ 14
พิพิธภัณฑ์บ้านดำ (อ.ถวัลย์ ดัชนี) ภาพ 13พิพิธภัณฑ์บ้านดำ (อ.ถวัลย์ ดัชนี) ภาพ 10พิพิธภัณฑ์บ้านดำ (อ.ถวัลย์ ดัชนี) ภาพ 59

วิหารราม
ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียวยกพื้นสูงจากพื้นดินประมาณ 1.80 เมตร โครงสร้างอาคารเป็นโครงสร้างไม้บนฐานปูน  มีเสาไม้รองรับโครงสร้างของอาคาร หลังคาทรงสามเหลี่ยม ลดระดับสี่ชั้น ด้านบนประดับด้วยป้านลมและหางหงส์  มีประตูขนาดใหญ่สองด้าน ตรงกัน มีบานเลื่อนกระจกด้านข้าง เวลาในการสร้าง 2 ปี แรงบันดาลใจจาก ความงามบริสุทธิ์ของไม้ขนาดใหญ่ ตั้งแต่เสา ฝา เครื่องบน ม้าต่างไหม กวีของไม้ 




เรือนหลังข้าว, บ้านยุ้งข้าว
ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียวยกพื้นสูงจากพื้นดินประมาณ 1.20 เมตร โครงสร้างอาคารเป็นโครงสร้างไม้ทั้งหมด  มีเสาไม้รองรับโครงสร้างของอาคาร หลังคาทรงสามเหลี่ยมมุงด้วยไม้แป้นเกล็ด ด้านบนติดกาแล มีทางเชื่อมอยู่ตรงกลาง  ของบ้าน มีกระจกรับแสงด้านบน ด้านในแบ่งเป็นสามส่วน มีห้องนอนสองห้องมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่และ  ตรงกลางของบ้านมีพื้นที่เอนกประสงค์มีเก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อน 




สุขากระบวนลุงแสง
ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียว โครงสร้างอาคารเป็นโครงสร้างไม้ทั้งหมด มีเสาไม้รองรับโครงสร้างของอาคาร     หลังคาทรงสามเหลี่ยมมุงด้วยไม้แป้นเกล็ด ด้านบนติดกาแล มีประตูเข้าทางด้านหน้า ด้านในแบ่งเป็นสองฟาก     ด้านทิศเหนือเป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำ ทิศใต้เป็นห้องน้ำ และห้องจัดแสดงกระบวยลุงแสง เป็นเรือนไม้ขนาดเล็ก ส่วนสัดสมบูรณ์ ลงตัวงดงาม เป็นห้องน้ำที่มีสุขภัณฑ์ ชั้นยอดกับห้องน้ำชาวบ้าน สะอาด ดูดี มีรสนิยม และรื่นรมย์ 


ห้องแต้ม
ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียว โครงสร้างอาคารเป็นไม้ผสมปูน มีเสาไม้รองรับโครงสร้างของอาคาร หลังคาทรงสามเหลี่ยม  ทรงสูงมุงด้วยกระเบื้องดินเผาไม่เคลือบสี  ด้านบนประดับด้วยกาแล ด้านล่างมีค้ำยันและคันทวย มีประตูเลื่อนเข้าออกสี่ด้าน  คือทางทิศเหนือ-ใต้ ทิศตะวันออก-ตก ด้านบนมี กระจกรับแสง ด้านในเป็นห้องโถงโล่ง มีเตียงนอนและมีห้องน้ำในตัว 1 ห้อง  กั้นตรงกลางห้องด้วยรูปเขียนขนาดใหญ่ งานสำคัญหลายชิ้นของจิตรกร สร้างสรรค์ขึ้นที่นี่ มากมาย

ศาลาตะวันออก
ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียว โครงสร้างอาคารเป็นโครงสร้างไม้บนฐานปูน  มีเสาไม้รองรับโครงสร้างของอาคารทั้งหมด 6 ต้น   ด้านข้างไม่มีผนัง หลังคาทรงสามเหลี่ยมมุงด้วยกระเบื้องดินเผาไม่เคลือบสี หลังคาลดระดับสามชั้น ประดับด้วยปั้นลมและหางหงส์ 

ผามผุกผายดาว
ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียวยกพื้นสูงจากพื้นดินประมาณ 0.40 เมตร โครงสร้างอาคารเป็นโครงสร้างไม้ผสมปูน   หลังคาทรงสามเหลี่ยม มุงด้วยกระเบื้องดินเผา ด้านบนติดกาแล ด้านล่างประดับด้วยค้ำยันและคันทวย มีประตูเลื่อนขนาดใหญ่  สองด้าน ตรงกัน กระจกรับแสงด้านบน ด้านในเป็นห้องโล่ง มีที่นอน ที่นั่งและอุปกรณ์ในการออกกำลัง สร้างขึ้นเพื่อออกกำลัง พักพิงนักศึกษา พักผ่อนนาฏศิลป์ แต่งตัวนักแสดง 

เรือนเชียงทองทาทาบรุ้ง
ลักษณะเป็นอาคารสองชั้น โครงสร้างอาคารเป็นโครงสร้างไม้บนฐานปูน มีเสาไม้รองรับโครงสร้างของอาคาร   หลังคาทรงสามเหลี่ยมเล่นระดับสี่ชั้น ประดับด้วยป้านลมและหางหงส์ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมของประเทศลาว  หลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผาไม่เคลือบสี  มีมุขด้านหน้าและ หลังมีประตูทางเข้าด้านหลังตรงกันด้านข้างเป็นกระจก ชั้นล่างแบ่งเป็น สามส่วน คือห้องนอนและห้องนั่งเล่น ห้องอาหารและห้องรับแขก และห้องครัวและห้องน้ำ ชั้นที่สองมีห้องนอนและห้องน้ำในตัว 




กิ่งกาลเวลาในกลีบผกา
ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียว โครงสร้างอาคารเป็นโครงสร้างไม้ มีเสาไม้รองรับโครงสร้างของอาคารทั้งหมด 12 ต้น  ด้านข้างไม่มีผนัง หลังคาทรงสามเหลี่ยมมุงด้วยหญ้าคา ใช้เป็นศาลาเอนกประสงค์

ไตรภูมิ(บ้านสามเหลี่ยม)
ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียวยกพื้นสูงจากพื้นดินประมาณ 1.80 เมตร โครงสร้างอาคารเป็นโครงสร้างไม้ทั้งหมด  มีเสาไม้รองรับโครงสร้างของอาคาร หลังคาทรงสามเหลี่ยมมุงด้วยไม้แป้นเกล็ด ด้านบนติดกาแล ด้นล่างประดับหางหงษ์  มีประตูขนาดใหญ่สองด้านตรงกัน มีหน้าต่างสองข้าง กระจกรับแสงด้านบน ด้านในแบ่งเป็นสามส่วน  มีห้องนอนสองห้องและห้องเอนกประสงค์ ตรงกลางสำหรับใช้งานทั่วไปหนึ่งห้อง






ห้องน้ำหมื่นนก

ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียว โครงสร้างอาคารเป็นโครงสร้างไม้ทั้งหมด มีเสาไม้รองรับโครงสร้างของอาคารทั้งหมด 6 ต้น  หลังคาทรงสามเหลี่ยมมุงด้วยไม้แป้นเกล็ด ลดระดับสามชั้น ด้านบนติดช่อฟ้าและตัวเหงา มีประตูเข้าทางด้านหน้า  ด้านข้างเป็นบานเลื่อนทำด้วยไม้ ด้านหน้าเป็นบานเลื่อนกระจก แบ่งเป็นสองฟาก ด้านในเป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำทั้งสองด้าน  ด้านข้างมีบานเลื่อนทำจากไม้ ใช้เป็นสุขา เพื่อสุขาวดี ของแขกผู้มาเยือน



เรือนผกายแก้ว
ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียว โครงสร้างอาคารเป็นโครงสร้างไม้ทั้งหมด มีเสาไม้รองรับโครงสร้างของอาคาร หลังคาทรงสามเหลี่ยม  มุงด้วยไม้แป้นเกล็ด ด้านบนติดช่อฟ้าและประดับตัวเหงา มีประตูเข้าทางด้านหน้า ด้านข้างเป็นบานเลื่อน ทำด้วยไม้ ด้านหน้าเป็น บานเลื่อนกระจก 

บ้านไซบะหลอด
ย้ายมาจากบ้านเก่า ในเมืองเชียงรายบ้านเดิมนำมาปลูกใหม่ ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียวยกพื้นสูงจากพื้นดินประมาณ 1.20 เมตร โครงสร้างอาคารเป็นโครงสร้างไม้ทั้งหมด มีเสาไม้รองรับโครงสร้างของอาคาร หลังคาทรงสามเหลี่ยมทรงจอมแห มีประตูเข้า  ทางด้านหน้า มีหน้าต่างด้านหน้าสองข้าง กระจกรับแสงด้านบน ด้านในแบ่งเป็นสองชั้น ชั้นบนมีที่นอนสำหรับ 1 คน  ด้านล่างมีห้องนอนสำหรับ 1 คน และห้องน้ำ 1 ห้อง




อูปปรภพ(ห้องจิตวิญญาณ)
ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียวทรงโดมมีลักษณะคล้ายเจดีย์ปลายตัด โครงสร้างอาคารเป็นโครงสร้างปูนทั้งหมด มีเสารองรับ  โครงสร้างของอาคาร มีประตูเข้าทางด้านหน้า-หลังทำจากด้านบนสุดติดกระจกเพื่อรับแสงสว่าง ที่มาและแรงบันดาลใจในการออกแบบ  อูบมุงอุโมงค์ เตาเผาถ่าน สถูปเจดีย์ ประติมากรรมในศาสนพลีหลายรูปแบบ ศิลปินปั้นบ้านเพื่อสถิตวิญญาณมากกว่าเอา  ประโยชน์ใช้สอย ให้ปริมาตรที่ปรินูนอิ่มเต็ม สงบระงับ





หยาดน้ำตาบนแก้มกาลเวลา (อูบก๊อกตด)
ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียวทรงโดมฐานกลมมีลักษณะคล้ายเจดีย์  โครงสร้างอาคารเป็นโครงสร้างปูนทั้งหมด มีเสารองรับ  โครงสร้างของอาคาร มีประตูเข้าทางด้านหน้า-หลังทำจากเหล็กบนยอดติดฉัตร ที่มาจาก ดอกบัวบานรองรับหยาดน้ำตาที่ร่วงลงบนแก้มกลีบกาลเวลา ต้นแบบของอูบมุง ปักยอดฉัตรบนปรางค์ปลียอด เค้าโครง และสัดส่วนที่ลงตัว ปฏิมาสถาปัตย์ชั้นแรก 



อูบเปลวปล่องฟ้า
ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียวทรงโดมฐานกลมมีลักษณะคล้ายเจดีย์ ปลายตัด โครงสร้างอาคารเป็นโครงสร้างปูนทั้งหมด  มีเสารองรับโครงสร้างของอาคาร มีประตูเข้าทางด้านหน้า-หลังทำจากด้านบนสุดติดกระจกเพื่อรับแสงสว่าง


นอแรดในรุ้งดาว (อูบเตารีดจัดแสดงชุดเฟอร์นิเจอร์จากทุกมุมโลก)
ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียวทรงโดม มีลักษณะคล้ายกับเตารีดเหล็กโบราณหรือโบสถ์ คริสตร์เตียนในยุคกลาง     โครงสร้างอาคารเป็นโครงสร้างปูนทั้งหมด มีเสารองรับโครงสร้างของอาคาร มีประตูเหล็กขนาดใหญ่เข้าทางด้านหน้า-หลัง


เถรีกัมปนาท (หอกลอง)
ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียว โครงสร้างอาคารเป็นโครงสร้างไม้บนฐานปูน  มีเสาไม้รองรับโครงสร้างของอาคารทั้งหมด 14 ต้น  ด้านข้างไม่มีผนัง หลังคาทรงสามเหลี่ยมมุงด้วยหญ้าคา ใช้เป็นศาลาเอนกประสงค์

 

หอคำ (ที่พักสำหรับสุภาพสตรี)
ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียวยกพื้นสูงจากพื้นดินประมาณ 1.70 เมตร โครงสร้างอาคารเป็นโครงสร้างไม้ทั้งหมด  มีเสาไม้รองรับโครงสร้างของอาคาร หลังคาทรงสามเหลี่ยมมุงด้วยไม้แป้นเกล็ด ด้านบนติดกาแล และบราลี ด้านล่างประดับ  ด้วยค้ำยันคันทวย มีประตูขนาดใหญ่สองด้าน ตรงกัน มีหน้าต่างด้านละสองข้าง ด้านในมีที่นอนสองและห้องน้ำหนึ่งห้อง 




หอไตร (ที่เก็บอัฐิบรรพบุรุษ)
ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียวยกพื้นสูงจากพื้นดินประมาณ1.80 เมตร โครงสร้างอาคารเป็นโครงสร้างไม้ทั้งหมด  มีเสาไม้รองรับโครงสร้างของอาคาร บันไดด้านหน้าทำจากเสาไม้บากร่องให้เป็นบันไดประดับด้วยเขาควาย  หลังคาทรงสามเหลี่ยมมุงด้วยไม้แป้นเกล็ด ด้านบนติดกาแล และบราลี ด้านข้างประดับด้วยหัวเม็ดทรงมัญฑ์ มีหน้าต่างหนึ่งบาน  ด้านในเป็นห้องเดี่ยว 




บ้านสามชั้น (เรือนนอนฤดูหนาว)
ลักษณะเป็นอาคารสามชั้น โครงสร้างอาคารเป็นโครงสร้างไม้ผสมปูน มีเสาไม้รองรับโครงสร้างของอาคาร หลังคาทรงสามเหลี่ยม  ทรงจอมแห มีป้านลมและตัวเหงา มีกระจกรับแสงด้านบน ด้านในแบ่งเป็นสามชั้น มีห้องนอนทั้งสามชั้นและมีห้องน้ำชั้นหนึ่ง 


ศาลามีดม้างฟ้า
ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียว โครงสร้างอาคารเป็นโครงสร้างไม้บนฐานปูน มีเสาไม้รองรับโครงสร้างของอาคารทั้งหมด 4 ต้น  ด้านข้างไม่มีผนัง หลังคาทรงสามเหลี่ยมมุงด้วยกระเบื้องดินเผาไม่เคลือบสี หลังคาลดระดับสองชั้น ประดับด้วยปั้นลมและตัวเหงา

ศาลาพระสี่อริยาบถ
ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียวยกพื้นสูงจากพื้นดินประมาณ 0.20 เมตร โครงสร้างอาคารเป็นโครงสร้าง  ไม้ทั้งหมด มีเสาไม้รองรับโครงสร้างของอาคาร หลังคาทรงสามเหลี่ยมลดระดับสี่ชั้นมุงด้วยกระเบื้องดินเผา  ไม่เคลือบสี  ด้านบนประดับด้วยป้านลมและหางหงส์ ด้านล่างโล่งไม่มีผนังกั้น ลักษณะเป็นแบบศาลา


มหาวิหาร (อาคารพิพิธภัณฑ์ศิลปะ)
ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียว โครงสร้างอาคารเป็นโครงสร้างไม้ทั้งหมด มีเสาไม้รองรับโครงสร้างของอาคาร หลังคาทรงสามเหลี่ยมมุง  ด้วยกระเบื้องดินเผาไม่เคลือบสี ประดับด้วยป้านลมและหางหงส์ และด้านล่างมีค้ำยัน ด้านหน้า-หลังมีประตูทางเข้า-ออกตรงกัน ด้านหน้าประดับด้วยซุ้มประตูขนาดใหญ่ฝีมือช่างพม่า

ศาลาเครื่องมุกมหัตภัณฑ์
ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียว โครงสร้างอาคารเป็นโครงสร้างไม้ทั้งหมด มีเสาไม้รองรับโครงสร้างของอาคาร  หลังคาทรงสามเหลี่ยมมุงด้วยกระเบื้องดินเผาไม่เคลือบสี ประดับด้วยป้านลมและหางหงส์ และด้านล่างมีค้ำยัน ด้านหน้า -  หลังมีประตูทางเข้าสามบาน แบ่งเป็นสามห้อง บริเวณโถงกลาง เป็นห้องรับแขก ห้องด้านซ้ายเป็นห้องนอนและห้องน้ำในตัว  ห้องด้านขวาเป็นห้องนั่งเล่น  

ศาลาพระทองไสยาสน์
เป็นอาคารชั้นเดียวยกพื้นสูงจากพื้นดินประมาณ 0.40 เมตร โครงสร้างอาคารเป็นโครงสร้างไม้ผลสปูน มีเสาไม้รองรับโครงสร้าง  ของอาคาร หลังคาทรงสามเหลี่ยมมุงด้วยกระเบื้องดินเผาไม่เคลือบสี หลังคาลดระดับสามชั้น ประดับด้วยหางหงส์และค้ำยัน มีประตู  สองด้าน ตรงกันประตูด้านหน้าประดับด้วยซุ้มประตูไม้แกะขนาดใหญ่ศิลปะพม่า ด้านข้างเป็นกระจกใสทั้งสองข้าง ด้านในแบ่งเป็น ห้องเดี่ยว 


วงแหวนหว่านล้อมดาวพระเสาร์
ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียว โครงสร้างอาคารเป็นโครงสร้างไม้ทั้งหมด มีเสาไม้รองรับโครงสร้างของอาคาร หลังคาทรงสามเหลี่ยมมุงด้วยกระเบื้องดินเผาไม่เคลือบสี ด้านบนประดับด้วยป้านลมและหางหงส์ ด้านล่างมีค้ำยัน  ประตูด้านหน้าประดับด้วยซุ้มประตูขนาดใหญ่ฝีมือช่างพม่า ด้านหลังมีทางเชื่อมต่อไปยังห้องน้ำ


สุขาวดีในกาพย์หอย
ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียว โครงสร้างอาคารเป็นโครงสร้างไม้บนฐานปูน  มีเสาไม้รองรับโครงสร้างของอาคาร  หลังคาทรงสามเหลี่ยมมุงด้วยกระเบื้องดินเผาไม่เคลือบสี  ด้านบนประดับด้วยป้านลมและหางหงส์ มีประตูเข้าออกทางเดียว  ด้านข้างเป็นกระจกใส 

อูบหัวนกกก, นกเงือกหัวแรด
ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียวทรงโดมมีลักษณะคล้ายหัวนกเงือก โครงสร้างอาคารเป็นโครงสร้างปูนทั้งหมด  มีเสารองรับโครงสร้างของอาคาร มีประตูเข้าออกทางเดียวด้านหน้าทางมีกระจกทรงกลมด้านข้าง ข้างละสามบาน  เพื่อเป็นช่องแสง ด้สนในมีห้องนั่งเล่นห้องนอนและห้องน้ำ แรงบันดาลใจในการออกแบบจาก  ประติมากรรม ในรูปแบบที่อยู่อาศัย ทางสถาปัตย์ จากนาวาโฮในอินเดียน อาปาเช่ในซานตาเฟ่ อูบมุงลาว โบสถ์ของเกาดี้ในเสปญ  โนเตระดามส์ รองชอง ของมีส วันโคโร มาจนถึง    บิลเบา ของแฟรงค์ แกรี่ 






ผามแกะไม้
ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียว โครงสร้างอาคารเป็นโครงสร้างไม้บนฐานปูน  มีเสาไม้รองรับโครงสร้างของอาคาร ด้านข้างไม่มีผนัง  หลังคาทรงสามเหลี่ยมมุงด้วยหลังคาลอนคู่ ใช้เป็นศาลาสำหรับช่างแกะไม้ 





ที่่มา
http://www.paiduaykan.com/province/north/chiangrai/bandum.html
http://www2.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9550000120272
http://sompornbandum.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น